วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553

52101408 โดนัลด์ ทรัมป์ สุดยอดเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์

โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์ (อังกฤษ: Donald John Trump) เกิดเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน ค.ศ. 1946
ในการจัดอันดับมหาเศรษฐีระดับโลกของนิตยสารฟอร์บส์ในปี 2007 โดนัลด์ ทรัมป์ ได้รับการจัดอันดับให้อยู่ในลาดับที่ 314 ของโลก ความร่ำรวยของเขานั้นมาจากมรดกและความสามารถเพิ่มพูนมรดกที่ได้รับมานี้ให้มีมากขึ้นเรื่อยๆ โดยแหล่งของรายได้นั้นมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเขามีทรัพย์สินทั้งหมด 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

โดนัลด์เป็นบุตรคนที่ 4 ใน 5 ของเฟรด ทรัมป์ เศรษฐีผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในนิวยอร์กซิตี พ่อของเขาจะสร้างบ้านที่มีราคาปานกลาง แต่จะเน้นลดต้นทุนของบ้านรวมทั้งเพิ่มความรวดเร็วในการสร้างบ้านทำให้เป็นจุดเด่นในการหาลูกค้าซื้อบ้านได้เร็วกว่าคู่แข่ง โดนัลด์ตอนอายุ 13 ปีได้ไปเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร New York Mility Academy ซึ่งได้รับระเบียบวินัยอย่างดี
โดนัลด์ได้รับอิทธิพลอย่างมากจากพ่อของเขาในเป้าหมายของอาชีพการเป็นนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ซึ่งในช่วงปิดเทอมโดนัลด์จะไปช่วยงานในไซด์ก่อสร้างรวมทั้งเข้าใจในหลักการต่อรอง คือ ต้องรู้ทันราคารับเหมาของผู้รับเหมาก่อนต่อจะต่อราคา หากมากไปก็ต่อราคา หากโดนกดราคาเขาก็จะไม่ทำ และ
ในครั้งจบการศึกษาจากโรงเรียนซาร์ตันแห่งมหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย
ในปี ค.ศ. 1963 โดนัลด์ ทรัมป์ได้เข้าร่วมบริษัทของพ่อของเคา ทรัมป์ออร์กาไนเซชัน ส่วนใหญ่จะเป็นการควบคุมค่าเช่า ในการเรียบเก็บอพาทเมนต์

เริ่มงานเองโดยโดนัลด์ในวัย 27 ปี ย้ายมาในแมนแฮตตันสำรวจตลาดอสังหาริมทรัพท์ด้วยตนเองและในระหว่างได้สร้างสายพันธ์กับชมรมเลอคลับที่รวมไปด้วยนักธุรกิจใหญ่ทำให้สามารถกู้เงินในการปรับปรุงโรงแรมคอมมอดอร์ ซึ่งจากเดิมเป็นโรงแรมเก่าซึ่งอยู่เขตที่ชุกชุมใจกลางเมือง โดยการสร้างความแตกต่างให้อาคารเป็นแนวใหม่และปรับปรุงภายใน เลือกแกรนด์ไฮแอตต์กับครอบครัวพริตซ์เกอร์ มาดำเนินงานบริหารเนื่องแกรนด์ไฮแอตต์เนื่องจากยังไม่มีโรงแรมในนิวยอร์กเลย ทำให้การต่อรองนี้ง่ายขึ้น ทำให้ได้ข้อเสนอที่ดีที่สุด เขายังคงดำเนินงานทรัมป์ทาวเวอร์ในนิวยอร์ก โดยหลักการคือให้ด้านล่างเป็นร้านค้าข้างบนสำนักงานซึ่งจะใช้ประโยชน์ได้ครบบถ้วน รวมทั้งยังสร้างปรับปรุงอาคารให้สูงขึ้นเนื่องจากทำเลดีมีความต้องการมากรวมทั้งการสร้างตึกสูงทำให้มองวิวนิวยอร์กได้สวยขึ้น
หลายโครงการที่พักอยู่อาศัย โดยโดนัทด์ศึกษาทำเลในการสร้างเองก่อนตัดสินใจเพื่อให้รู้ความต้องการตลาดต่อมาทรัมป์ยังขยับขยายธุรกิจสู่อุตสาหกรรมการบิน และธุรกิจคาสิโนแอตแลนติกซิตี โดยเริ่มแรกโดนัทด์ เริ่มอนุญาติให้เปิดคาสิโนนั้นก็มีหลายคนเข้ามาทำคาสิโนแต่ถูกเทศบาลไม่อนุมัติบ้างถูกตรวจสอบให้สินบนบ้าง ส่งผลให้ในช่วงแรก ยังไม่มีใครสร้างได้ ดังนั้นโดนัทด์จึงรอเวลาจังหวะการลงทุน และจึงนำบทเรียนของคนก่อนได้นี้เป็นบทเรียนจึงได้ทำให้คาสิโนแอตแลนติกซิตีของโดนัทด์เป็นที่ประสบความสำเร็จรวมถึงการซื้อทัชมาฮาลคาสิโน จากครอบครัวครอสบี
แต่พอมาในตอนต้นทศวรรษที่ 1990 โดนัลด์ ทรัมป์ เริ่มประสบกับปัญหาการเงิน เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจ บริษัทอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งประสบปัญหาทางการเงิน เขามาถึงจุดตกต่าสุดเมื่อธนาคารบังคับให้เขาล้มละลายจากหนี้เงินกู้ 2 พันล้านดอลลาร์ที่ไม่สามารถหาเงินมาชำระคืนได้


แต่พอปลายทศวรรษที่ 1990 ธุรกิจของเขาก็เริ่มฟื้นตัวดีขึ้นเรื่อยๆ และในไม่กี่ปีต่อมาเขาก็สามารถฟื้นตัวจากภาวะล้มละลาย เขาได้เขียนเล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เขาสามารถฟื้นตัวจากสภาวะล้มละลายมาได้เป็นหนังสือเล่มที่มีชื่อว่า The Art of the Comeback และเขาก็เขียนหนังสือเล่มอื่นๆ ตามมาเรื่อยๆ และเป็นหนังสือที่ขายดีมาก
หลังจากที่ฟื้นตัว นอกเหนือจากการทาธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์แล้ว โดนัลด์ ทรัมป์ ได้เข้าไปลงทุนในธุรกิจทีวีในฐานะผู้ผลิตรายการ Miss USA, Miss Universe และ Miss Teen USA และยังมีรายการเรียลลิตี้โชว์อันโด่งดังคือ “The Apprentice” ทางช่องเอ็นบีซี ไม่น่าแปลกใจเลยเมื่อเขาเป็นมหาเศรษฐีติดอันดับบุคคลที่รวยที่สุดในโลก เจ้าของบริษัทประกวดนางงามหลายค่าย ทาให้ทรัมป์เป็นบุคคลที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งในสหรัฐ ชาวอเมริกัน 98% รู้จักโดนัลด์ ทรัมป
ปี2001 ทรัมป์เพลซ กลุ่มอาคารหลายหลังริมแม่น้ำฮัดสัน ทรัมป์ยังเป็นเจ้าของพื้นที่การค้าในทรัมป์อินเตอร์เนชันนอลแอนด์ทาวเวอร์ อาคาร 44 ชั้น (โรงแรมและคอนโดมิเนียมรวมกัน) ทรัมป์ยังเป็นเจ้าของพื้นที่หลายล้านตารางฟุต อสังหาริมทรัพย์ในแมนฮัตตันและยังถือเป็นบุคคลสำคัญทางด้านอสังหาริมทรัพย์ในสหรัฐอเมริกาและเป็นคนมีชื่อเสียงสำคัญกับสื่อมวลชน

Donald Trump 2008 ในวัย 61 มีธุรกิจมากมายมหาศาลทั่วโลก แต่ส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ แต่ช่วงหลัง Trump หันมาจับธุรกิจบันเทิงด้วย เขายังมีชื่อเสียงอย่างมากจากความสาเร็จในการทารายการเรียลลิตี้โชว์ที่มีชื่อว่า “The Apprentice” ถือเป็นรายการที่มีผู้เข้าชมมากที่สุดรายการหนึ่งในสหรัฐฯ ซึ่งบรรดาผู้เข้าแข่งขันจะต้องมาแสดงความสามารถในการบริหารงานธุรกิจ รายการนี้จะเป็นการสรรหาพนักงานที่มีคุณภาพเพื่อมาทางานในอาณาจักรธุรกิจทรัมป์ โดยเขาเป็นผู้ลงมือฝึกเอง ตั้งแต่การเตรียมตัวเข้าหางาน งานธุรการทั่วไป งานพัสดุ การเงินและบัญชี กฎข้อบังคับของบริษัท วินัยของพนักงาน และสิ่งอื่นๆ ที่ควรรู้หากเข้าทำงานในอาณาจักรธุรกิจทรัมป์

ในรายการนี้ มีหนุ่มสาวที่สาเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยไปสมัครกันมากมาย โดยจะมีการคัดคนออกไปเรื่อยๆ จากนั้นผู้ที่ผ่านการคัดเลือก 18 คน จะถูกส่งเข้าไปอยู่ในบ้านแบบเรียลลิตี้โชว์ เพื่อฝึกปฏิบัติงานและดูท่วงทีวาจากิริยาท่าทีในการทางาน เพื่อชิงรางวัลก็คือได้ทางานกับหนึ่งในบริษัทของทรัมป์ เป็นเวลา 1 ปี ซึ่งมีค่าเหนื่อยอย่างงามถึง 250,000 เหรียญสหรัฐฯ โดยเขาทาหน้าที่เป็นทั้งผู้อานวยการผลิต (executive producer) และผู้ดาเนินรายการ เขามีทรงผมที่เป็นเอกลักษณ์ และมีวลีที่ฮิตติดปากคนทั่วไปที่โด่งดังจากรายการของเขาว่า “คุณถูกไล่ออกแล้ว” ซึ่งด้วยความที่เขาเป็นคนที่เปิดเผยและปรากฏตัวในสื่ออยู่ตลอดเวลาทาให้เขากลายเป็นนักธุรกิจคนดังที่เป็นที่รู้จักกันมากและเป็นบุคคลสาธารณะ
เส้นทางนักพัฒนาธุรกิจของโดนัลด์ ทรัมป์
เปรียบเทียบคุณ โดนัลด์ ทรัมป์ กับตนเอง
-ในช่วงเริ่มต้นพื้นฐานครอบครัว และฐานะของตนเอง โดนัลด์ ทรัมป์ ดีกว่าของผม
-การศึกษาของตนเองสูงกว่า ของคุณโดนัลด์ ทรัมป์ ในช่วงเริ่มต้นดำเนินธุรกิจ
สรุป โดยพื้นฐานแล้ว โดนัทด์ ทรัมป์ และผม มีฝันในการขับเคลื่อนเหมือนกัน แต่สิ่งที่แตกต่างกันคือ
ความคิดใหญ่ ความกล้าทำงานใหญ่ ความไม่ย่อท้อ ทำให้คุณ โดนัลด์ ทรัมป์ประสบความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจ กิจการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว มีฐานะทางการเงินมั่นคง เป็นเศรษฐีและนักธุรกิจ ที่สำคัญคนหนึ่งของโลก ซึ่งผมชื่นชอบมากในการคิดใหญ่ โดยท่านเข้าใจในธุรกิจโดยการหาข้อมูลอย่างจริงจังในแต่ละครั้งซึ่งการได้ข้อมูลผิดเพียงแค่ย่างก้าวอาจทำให้ธุรกิจพังได้ดังเช่นท่านในช่วงปี 90 และท่านกล้าลุกขึ้นสร้างธุรกิจ จากหนี้ 400 ล้านเหรียญสหรัฐ กับลุกขึ้นมหาเศรษฐีระดับโลกของนิตยสารฟอร์บส์ในปี 2007 ลำดับที่ 314 ของโลก
คติประจำใจ

เพียรพยายาม คือ ความแตกต่างระหว่างความสำเร็จกับความล้มเหลว

จาก โดนัลด์ จอห์น ทรัมป์